สวดมนต์เสริมพลังจิต

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Paprika (พริกใหญ่) คลายเครียด, แก้ปวดกล้ามเนื้อและปวดตามข้อ

เมื่อศตวรรษที่ ๑๖  ชาวสเปญได้เป็นผู้นำ Paprika จากประเทศในอเมริกากลางและอเมริกาใต้  เข้ามาปลูกในประเทศสเปญ...ปัจจุบันนี้สามารถปลูกได้ทุกทวีปในพื้นที่ที่มีแดดอบอุ่น  Paprika เป็นพืชที่ชอบแสงอาทิตย์มาก  เป็นพริกชนิดหนึ่งที่มีรสไม่เผ็ดเหมือนพริกอื่น ๆ  โดยเฉพาะบางชนิดมีรสหวาน  Paprika ขึ้นวางกับพื้นดินไม่ห้อยติดต้นเหมือนพริกชนิดอื่น ๆ  เป็นที่นิยมมากในตลาดยุโรป...ปลูกมากที่สุดในประเทศอิตาลี, ฮังการี, ฝรั่งเศสตอนใต้, รูเมเนีย, อิสราเอล, กรีก, แซเบียน, เยอรมัน....

ประเทศเยอรมันเริ่มรู้จัก Papritka เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒  สมัยนั้นมีชนิดพริกสีเหลืองปนสีเขียวและพริกสีแดงปนสีเขียว  ยังไม่มีพริกสีเหลืองและสีแดงล้วน ๆ  มีขายทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์คตลอดปี......
Paprika หรือพริกใหญ่ มีประโยชน์มาก....พริกใหญ่น้ำหนัก ๑๐๐ กรัม มีวิตามินซีถึง ๔๐๐ มิลลิกรัม  เป็นพืชผักที่มีวิตามินซีมากที่สุด  เรียกว่า "Vitaminbombe"  โดยเฉพาะพริกใหญ่สีเขียวที่แก่เต็มที่แล้ว  มีวิตามินซีมากที่สุด  ส่วนสีแดงและสีเหลืองมีวิตามินน้อยกว่า

.....ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๙๓๒  Professor Albert Szent Gyorgyi ชาวฮังการี  ทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย Szegediner ประเทศฮังการี  ได้เป็นผู้ค้นพบวิตามินซีเป็นครั้งแรก....เขาเป็นนักศึกษาค้นคว้าด้านพืชผักแห่งชาติ  ได้ค้นพบว่า Paprika สีแดงมีวิตามินซีมากที่สุด......ในปี ค.ศ. ๑๙๓๗ เขาได้รับรางวัล "Nobel" เพราะผลงานนี้  และก่อนหน้านั้นเขาได้ให้สัญลักษณ์ของธาตุสารอาหารใน Paprika ว่า "Vitamin P"

ต่อมาในปัจจุบันนี้  คนรู้จักในนามของ "Bio flavonoide + Rutin" ช่วยละลายสิ่งที่ตกค้างในเส้นเลือด...ทำให้ Kapillaren (เส้นเลือดฝอย) บางลงและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ....Paprika สีแดง ๑๐๐ กรัม มีวิตามินซี ๓๐๐ มิลลิกรัม, Paprika สีเขียว ๑๐๐ กรัม มีวิตามินซีเพียง ๑๔๐ มิลลิกรัม....และยังมีชนิดที่มีลักษณะเหมือนมะเขือเทศเนื้อ เรียกว่า "Tomaten Paprika" มีรสเผ็ดปนหวานนิด ๆ มีวิตามินซีมากเช่นกัน .....ส่วนที่ทำให้มีรสเผ็ดคือ เมล็ดและผิวของเปลือกด้านนอกของมัน  ชนิดมีรสเผ็ดนิด ๆ เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก  เพราะช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ทำให้เส้นเลือดเปิดและเลือดเดินได้สะดวก   นอกจากนั้นยังช่วยในการปรับระดับ ความดันของโลหิตอีกด้วย....บางชนิดเผ็ดมากจะช่วยขับสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ทำให้น้ำตาไหล น้ำมูกไหล....Paprika สีแดงทำให้เจริญอาหารด้วย เพราะความเผ็ดของมัน ทำให้ร่างกายต้องการน้ำมากกว่าปรกติ จึงทำให้ร่างกายมีน้ำชุ่มชื่น มีน้ำไปหล่อเลี้ยงเยื้อผิวอ่อนภายใน  และช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นด้วย

Paprika สีแดงมี Beta-Karotine มากกว่าชนิดอื่น และมีคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็งได้  นอกจากนั้นยังรักษาโรคเยื้อผิวหนังอักเสบ เช่น แผลในปาก.....Beta-Karotine ผลิตวิตามินเอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฮอร์โมนเพศ และทำให้มีสมรรถภาพในด้านเพศสัมพันธ์....ใน Paprika มี Selen โดยเฉพาะ Coenzym Q10  ซึ่งปัจจุบันทางเภสัชกรรมใช้ทำเป็นลักษณะแคปซูลจำหน่ายราคาแพงมาก.....Paprika ยังช่วยคลายเครียด, แก้ปวดกล้ามเนื้อและปวดตามข้อต่าง ๆ ได้ด้วย

วิธีบริโภค Paprika สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร จะมีความรู้สึกไวต่อปฏิกิริยาเกี่ยวกับพืชผักบางชนิดที่มีเปลือก  ดังนั้นก่อนรับประทานควรปลอกเปลือกแล้วชิมดูก่อน.....วิธีปลอกเปลือกที่ง่ายมากคือ  ผ่า Paprika ออกเป็น ๔ ส่วน  วางคว่ำลงบนถาด แล้วนำไปอบในเตาอบ  ใช้เวลาพอประมาณ จนบางส่วนดำนิดหน่อย (เปลือก) และพองขึ้นมา  จากนั้นจึงนำไปแช่น้ำเย็นสักครู่  แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งจึงปลอกเปลือกออกได้.....Paprika สดเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง ๒ สัปดาห์  แต่ต้องไม่เย็นเกิน  เพราะว่าความเย็นจัด จะทำให้สูญเสียคุณภาพได้

แปลจากหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพและการบริโภคอาหารเพื่อสุขาภาพ เขียนโดย Claudia Tebel-Nagy