สวัสดีปีใหม่ค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน.....เวลาหนึ่งปีผ่านไปอีกแล้ว รวดเร็วจนน่าใจหาย ความแก่และความตายก็ใกล้เข้ามาทุกปี....ที่จริงแล้วความแก่และความตายนี่ก็เกิดขึ้นทุกขณะจิต แต่เราก็ไม่เห็นตามความเป็นจริง เพราะเหตุว่าโดนกิเลสตัณหามันปิดบัง......ใคร ๆ ก็ไม่อยากแก่และไม่อยากตาย แต่ยังไง ๆ ทุกคนก็หนีไม่พ้น ถ้าไม่อยากทุกข์กับสังขารทั้งหลายซึ่งเป็นของไม่เที่ยง มีวิธีเดียวยอมรับตามความเป็นจริงตามกฏไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ก็ต้องเริ่มศึกษาซะแต่เดี๋ยวนี้ เพื่อพัฒนากายและจิตใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น.....ร่างกายนอกจากจะต้องการอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังต้องมีการบริหารด้วยการออกกำลังกลางแจ้งให้สม่ำเสมอด้วย (ปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติ ๑๐ ประการ) ส่วนด้านจิตใจนั้น ก็ต้องการอาหารที่มีคุณค่าเช่นกัน อาหารวิเศษที่สุดสำหรับจิตใจก็คือ
"พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" กายและใจนี้เนื่องกันอยู่ ดังนั้นจึงควรให้การเอาใจใส่ดูแลสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง อย่าให้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ชีวิตก็จะเป็นชีวิตที่มีคุณภาพ และไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ในชาติหนึ่ง.....ปีใหม่ให้ของขวัญแก่ตนเอง ด้วยการเริ่มต้นดี สนใจใส่ใจบำรุงสุขภาพกายและใจด้วยการศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ.....วันนี้ฉันก็จะขอนำเสนอเรื่องพื้น ๆ แต่คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่น้อยทีเดียวจ๊ะ
ขิง (Ingwer) ดั้งเดิมทีเดียว
"ขิง" มีต้นกำเนิดในเขตร้อนของเอเซียตะวันออก ปัจจุบันนี้สามารถปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน โดยเฉพาะปลูกกันมากในประเทศอินเดีย...
."ขิง"มีลักษณะเป็นแขนงเหมือนรากไม้มีสีเหลือง เนื้อเป็นเสี้ยน มีรสเผ็ดร้อน....ขิงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในเส้นเลือด นอกจากนั้นขิงยังช่วยขจัดเชื้อโรคได้ด้วย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ระบายลม ช่วยระบบไหลเวียนของโลหิต และบรรเทาความเจ็บปวดต่าง ๆ ในร่างกาย...."
ขิง" เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก ไม่ควรใช้ขิงปรุงอาหารผสมกับเครื่องเทศหรือสมุนไพรอย่างอื่น เพราะจะทำให้เสียรสชาด....
"ขิง" เหมาะสำหรับอาหารพวกเนื้อสัตว์ปีกทุกชนิด ปลา ข้าว แคร์รอท บร็อคโคลี่ ฟักทอง ถั่วขาว แต่ต้องหั่นขิงให้เล็กมาก ๆ หรือจะใช้เครื่องไสเป็นเส้นบาง ๆ ก็ได้ นอกจากนั้นขิงยังใช้เป็นส่วนผสมในของหวานทำให้เพิ่มรสชาดอร่อยมากขึ้น เช่น ผลไม้สลัด ขนมที่ทำด้วยกะทิ และขนมประเภทอบ (ขนมเค็ก)ขิงเชื่อมน้ำตาล ขิงอบ ขิงฉาบ หรือแล้วแต่จะคิดปรุงแต่งตามอัธยาสัย
กระเทียม (Garlic) เป็นพืชที่ปลูกกันมาตั้งแต่สมัยกาลนานมาแล้ว ปลูกกันทั่วโลก ดั้งเดิมทีเดียวเริ่มปลูกในเอเซียตอนใต้.....ช่วงเวลาที่มีการปลูกกระเทียมกันมาก คือช่วงที่ชาวอียิปต์มีการสร้างปิรามิต ช่วงนั้นชาวอียิปต์บริโภคกระเทียมเป็นอาหารหลัก เขาให้การยกย่องกระเทียมว่าเป็นเสมือนเครื่องมือสำคัญสำหรับพวกคนงาน ก็แสดงว่า
"กระเทียม" เป็นเสมือนยากำลังของพวกเขา บริโภคแล้วสามารถทำงานได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จึงทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างปิรามิด อันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก....
"กระเทียม" จะเริ่มผลิดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายนทั่วไปในประเทศอียิปต์ งอกงามดีในที่แห้งและมีแสงแดด
ปัจจุบันแหล่งปลูกกระเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ในฤดูใบไม้ผลิจะมีกระเทียมสด มีรสไม่เผ็ด เปลือกอ่อน มีลักษณะเหมือนหัวหอม หัวสีม่วงและก้านสีเขียว มีจำหน่ายทั่วไปตามตลาด หลังจากนั้นกระเทียมก็จะเริ่มแก่มีรสเผ็ดขึ้น เปลือกบางขึ้น...
"กระเทียม"ช่วยทำให้เจริญอาหาร ทำให้อาหารมีรสชาดดีขึ้น.....นอกจากนั้นกระเทียมยังเป็นยารักษาโรคได้ด้วย ....."
กระเทียม"มีประโยชน์ต่อระบบไหลเวียนของโลหิต ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยทำความสะอาดแก่เส้นเลือดและช่วยระบายลมในลำไส้....ชาวกรีกโบราณได้ยกย่องกระเทียมว่าเป็น
"กุหลาบเหม็น" ส่วน Pythagoras ให้ความสำคัญแก่กระเทียมว่าเป็น
"ราชาแห่งเครื่องเทศ" ทั้งหลาย
บทความนี้ได้แปลจากหนังสือคู่มือการบริโภคเพื่อสุขภาพของ Claudia Tebel-Nagy